Skip to content
Home » Active Learning

Active Learning

    Active Learning เป็นวิธีการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริง และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ในทางธุรกิจ


    ที่มาและความจำเป็นของ Active Learning ในองค์กร

    Active Learning ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้แบบเดิมที่ผู้เรียนเป็นเพียงผู้รับข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว (Passive Learning) ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาได้น้อยและไม่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรยุคใหม่ที่ต้องการคนที่มีทักษะในการแก้ปัญหา (Problem Solving) และทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) Active Learning จึงกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรเพราะสามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นเหล่านี้ได้ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในเนื้อหามากขึ้นและสามารถจดจำได้ดีกว่าเดิม


    ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Active Learning ในองค์กร

    องค์กรสามารถประยุกต์ใช้ Active Learning ในการฝึกอบรมพนักงานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

    1. การเรียนรู้แบบกรณีศึกษา (Case Study)

    ผู้เรียนจะได้รับมอบหมายให้ศึกษาและวิเคราะห์กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริงในธุรกิจขององค์กร และระดมสมองเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยผู้เรียนจะต้องนำความรู้ที่ได้จากเนื้อหามาวิเคราะห์และตัดสินใจ ทำให้เกิดการฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์จริง

    2. การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)

    ผู้เรียนจะถูกแบ่งกลุ่มเพื่ออภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อที่กำหนด การอภิปรายนี้ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการสื่อสาร การรับฟังผู้อื่น และการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการทำงานเป็นทีม

    3. การจำลองสถานการณ์ (Role-Playing)

    ผู้เรียนจะได้รับบทบาทสมมติเพื่อแสดงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานจริง เช่น การเจรจากับลูกค้าที่ยากลำบาก การจัดการข้อขัดแย้งในทีม หรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การจำลองสถานการณ์ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ทักษะที่เรียนรู้มาในสถานการณ์เสมือนจริง ทำให้เกิดความมั่นใจและพร้อมรับมือกับสถานการณ์จริงได้


    การประยุกต์ใช้ Active Learning ร่วมกับ e-Learning

    ปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่มีการนำ e-Learning มาใช้ในการฝึกอบรมพนักงาน ซึ่ง Active Learning และ e-Learning สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น

    • Interactive Quizzes and Simulations: ในหลักสูตร e-Learning สามารถออกแบบให้มีแบบทดสอบที่โต้ตอบได้ หรือการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง เช่น การจำลองระบบการทำงานของซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อให้พนักงานได้ฝึกใช้งานจริงก่อนการนำไปใช้จริง
    • Gamification: การนำองค์ประกอบของเกมมาใช้ในการเรียนรู้ เช่น การให้คะแนนสะสม การจัดอันดับ หรือการปลดล็อกด่านเพื่อจูงใจให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การตอบคำถาม หรือการทำแบบฝึกหัด
    • Online Discussion Forums: สร้างฟอรัมหรือกระดานสนทนาออนไลน์ให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือถาม-ตอบปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้
    • Virtual Reality (VR) and Augmented Reality (AR): การใช้เทคโนโลยี VR และ AR เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับเนื้อหาได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการฝึกอบรมที่ต้องการการลงมือปฏิบัติ เช่น การฝึกซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรือการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย

    การผสมผสาน Active Learning และ e-Learning เข้าด้วยกันช่วยให้องค์กรสามารถสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพสูงได้ อย่างยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่าย ทำให้พนักงานสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังสามารถติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียนได้อย่างเป็นระบบ และสามารถวัดผลการเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย